เอกสารนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) รวมถึงกลุ่มบริษัท (ตามที่ได้ให้คำนิยามไว้ข้างล่าง) ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญต่อการดำเนินงานและแสดงถึงความน่าเชื่อถือของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวของผู้ที่เกี่ยวข้อง และพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าของบริษัท ในทุกช่องทางการขาย กรรมการและพนักงานของบริษัทคู่ค้าและคู่ค้าซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา รวมไปถึงบุคลากรของบริษัท ผู้มาติดต่อกับบริษัท รวมถึงผู้เข้าร่วมในกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือกิจกรรมเพื่อสังคมต่าง ๆ ของบริษัท บริษัทจึงได้จัดทำและประกาศใช้แนวนโยบายนี้ขึ้น เพื่อให้เป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และเพื่ออธิบายถึงวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบภายในบริษัทและที่ปรึกษากฎหมายภายนอกบริษัท โดยบริษัทให้ความสำคัญกับการเคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัวของท่าน และเพื่อให้ท่านได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
- เพื่อให้การทำธุรกรรมกับบริษัทและกลุ่มบริษัทมีความมั่นคงปลอดภัย น่าเชื่อถือ และสร้างความมั่นใจให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปแสวงหาประโยชน์โดยทุจริต หรือนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ขอบเขต
นโยบายฉบับนี้ใช้บังคับกับบริษัท โดยบริษัทย่อยของบริษัทสามารถนำนโยบายฉบับนี้ไปปรับใช้ให้เข้ากับบริบททางธุรกิจและกระบวนการบริหารภายในของแต่ละบริษัทบนพื้นฐานของภูมิสังคมของแต่ละประเทศให้มีความสอดคล้องกัน
นิยาม
- กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึง พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือแนวปฏิบัติ (Guideline) ใด ๆ ที่ออกภายใต้พระบัญญัติดังกล่าว
- ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับบุคคลใดซึ่งสามารถใช้ระบุตัวตนของบุคคลดังกล่าวได้ แต่ไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ (anonymous data) เช่น ชื่อ-นามสกุล, หมายเลขบัตรประชาชน, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล (email address) ข้อมูลบัตรเครดิต ภาพถ่ายของท่าน, เชื้อชาติ, สัญชาติ, ศาสนา, วันเดือนปีเกิด, ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสินค้าและบริการ, ข้อมูลการชำระเงิน เป็นต้น
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายความรวมถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ, เผ่าพันธุ์, ความคิดเห็นทางการเมือง, ความเชื่อในลัทธิ, ศาสนาหรือปรัชญา, พฤติกรรมทางเพศ, ประวัติอาชญากรรม, ข้อมูลสุขภาพ, ความพิการ, ข้อมูลสหภาพแรงงาน, ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ, หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
- ประมวลผล หมายถึง เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
- กลุ่มบริษัท หมายถึง บริษัทและบริษัทย่อย
- บริษัทย่อย หมายถึง บริษัทซึ่งบริษัท
- (1) ถือหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงเกินกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทนั้น ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม และ/หรือ
- (2) มีอำนาจควบคุมคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้น ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม และ/หรือ
- (3) มีอำนาจควบคุมการแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการตั้งแต่กึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมดไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม
- บุคลากร หมายถึง กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน รวมถึงที่ปรึกษา
- กรรมการ หมายถึง กรรมการของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย
- คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง กลุ่มบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัทให้มีหน้าที่ในการติดตาม ตรวจสอบ และให้คำแนะนำการประมวลผลข้อมูลของบริษัท เพื่อให้สอดคล้องตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- ผู้บริหารระดับสูง หมายถึง ประธานคณะผู้บริหาร กรรมการผู้จัดการ รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสูงสุดของแต่ละกลุ่มธุรกิจ (Business Unit) และหน่วยงานสนับสนุน (Support Unit) ของบริษัทและ/หรือบริษัทย่อย
- พนักงาน หมายถึง ผู้บริหารและพนักงานที่ได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือนและรายวันของบริษัท หรือบริษัทย่อย ไม่ว่าจะเป็นการว่าจ้างประจำหรือชั่วคราว หรือการว่าจ้างด้วยสัญญาพิเศษ
- ท่าน หมายถึง ลูกค้า ผู้ใช้บริการ คู่ค้า พนักงาน ผู้รับจ้างของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อผ่านสำนักงานใหญ่ สาขา หรือผ่านสื่อออนไลน์ทุกช่องทางของบริษัท
การเก็บข้อมูลอย่างจำกัด
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ซึ่งท่านได้ให้ไว้กับบริษัทโดยทางตรงหรือเกิดจากการใช้บริการหรือการติดต่อสื่อสารกับบริษัท ทั้งในรูปแบบเอกสารหรือข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่บริษัทจัดเก็บจะดำเนินการให้ได้มาด้วยวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นธรรม และเหมาะสม และการจัดเก็บเพียงเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงผลกระทบของการไม่ให้ข้อมูล และบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อนเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บรวบรวมนั้นสามารถดำเนินการได้ตามที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน บริษัทจะดำเนินการให้ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อนเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บรวบรวมนั้นสามารถดำเนินการได้ตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้เป็นระยะเวลาตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นๆ ซึ่งบริษัทจะได้แจ้งให้ท่านทราบก่อนการซื้อสินค้า ใช้บริการ ติดต่อสื่อสาร หรือเข้าทำสัญญาในแต่ละเรื่อง และหากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ ซึ่งบริษัทจะเปิดเผยไว้บนเว็บไซต์ของบริษัท
บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของบุคลากรของบริษัท
โดยที่บุคลากรของบริษัททุกคนมีหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายความเป็นส่วนตัว และนโยบายและแนวทางปฏิบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัย บุคลากรแต่ละคนจึงมีหน้าที่และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้
คณะกรรมการบริษัท
- กำกับดูแล ส่งเสริม และสนับสนุน ให้ให้กลุ่มบริษัทมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
คณะกรรมการบริหารของบริษัท
- กำกับดูแล ส่งเสริมและสนับสนุนให้บริษัทมีกระบวนการปฏิบัติงานเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- สนับสนุนการทำงานของหน่วยธุรกิจ (Business Unit) และหน่วยงานสนับสนุน (Support Unit) หรือบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
คณะกรรมการบริษัทย่อย
- กำกับดูแล ส่งเสริมและสนับสนุนให้บริษัทที่ตนเป็นกรรมการ มีกระบวนการปฏิบัติงานเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- สนับสนุนการทำงานของหน่วยธุรกิจ (Business Unit) และหน่วยงานสนับสนุน (Support Unit) หรือบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- กำหนดนโยบายและการแผนดำเนินการ และนโยบายด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมาย
- ให้คำปรึกษาและแนะนำคณะกรรมการ ผู้บริหารระดับสูง และพนักงานของกลุ่มบริษัท ในการปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- ติดตาม ตรวจสอบ และกำกับดูแลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท รวมถึงบุคลากรของกลุ่มบริษัท เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- เป็นศูนย์กลางในการติดต่อเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล การปกป้องสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ
- รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ล่วงรู้หรือได้มาเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือตามนโยบายฉบับนี้
- สร้างและส่งเสริมความตระหนักรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- แต่งตั้งและกำหนดหน้าที่ของบุคลากรตามที่กฎหมายกำหนด
ผู้บริหารระดับสูง
- จัดให้มีระเบียบปฏิบัติและมาตรการในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและตามมาตรฐานสากลซึ่งเป็นที่ยอมรับ ทั้งในกรณีที่หน่วยงานที่ตนดูแลรับผิดชอบเป็นผู้ประมวลผลเองหรือกรณีว่าจ้างบุคคลภายนอกให้ดำเนินการแทน
- กำกับดูแลให้มีโครงสร้างและผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบายนี้
- กำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามนโยบาย แนวปฏิบัติ และระเบียบปฏิบัติ ตลอดจนพัฒนาปรับปรุงวิธีการปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้มีการรายงานผลอย่างสม่ำเสมอ
หน่วยธุรกิจ (Business Unit) และหน่วยงานสนับสนุน (Support Unit) ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
- ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และดำเนินการตามนโยบาย ระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มบริษัท
- กำหนดระเบียบปฎิบัติที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในหน่วยงานของตน
พนักงาน
- ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และตามนโยบาย ตลอดจนระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- แจ้งผู้บังคับบัญชา และ/หรือคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทันที เมื่อพบการรั่วไหลหรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
- เมื่อพบเห็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนนโยบายฉบับนี้ ให้แจ้งเรื่องการฝ่าฝืนดังกล่าวผ่านช่องทางตามนโยบายการแจ้งเบาะแสของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย
บทกำหนดโทษ
ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินงานเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามหน้าที่ของตน หากละเลย หรือละเว้นไม่สั่งการหรือไม่ดำเนินการ หรือสั่งการ หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งในหน้าที่ของตน อันเป็นการฝ่าฝืนนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล จนเป็นเหตุให้เกิดความผิดตามกฎหมายหรือความเสียหายขึ้น ผู้นั้นต้องรับโทษทางวินัยตามระเบียบของบริษัท โดยบริษัทจะไม่ประนีประนอมให้กับความผิดใดๆ ที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบได้กระทำขึ้น และผู้นั้นต้องรับโทษทางกฎหมายตามความผิดที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ หากความผิดดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทหรือบุคคลอื่นใด บริษัทอาจพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ทราบหรือตามสัญญา หรือเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับการติดต่อสื่อสาร หรือติดต่อทางธุรกิจกับท่าน หรือได้รับความยินยอมจากท่านแล้ว หรือเป็นกรณีที่บริษัทสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตให้ทำได้เท่านั้น และบริษัทจะดูแลไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานของบริษัทเปิดเผย แสดง หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฎในลักษณะอื่นนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ทราบหรือที่ได้รับความยินยอมจากท่าน หรือสามารถดำเนินการได้ตามที่กฎหมายกำหนด
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจถูกนำไปใช้ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ เพื่อการพัฒนา ปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ การส่งเสริมด้านการตลาด การให้ข้อมูลและ/หรือ รายการอัพเดทเกี่ยวกับสินค้าตามวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของบริษัท และเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์และความพึงพอใจสูงสุด
การเปิดเผยข้อมูลแก่บุคคลที่สาม
บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใดของท่านโดยปราศจากความยินยอมของท่านหรือนอกเหนือไปจากกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตให้ทำได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ท่าน บริษัทอาจจะมีการส่งต่อ โอน และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แก่บริษัทที่อยู่ใน “กลุ่มบริษัท” ผู้สอบบัญชี หรือพันธมิตรทางธุรกิจ หรือบุคคลอื่นใดที่บริษัทเป็นคู่สัญญาไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ เฉพาะเพื่อการตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญา หรือเพื่อการอันเกี่ยวเนื่องกับการให้บริการแก่ท่าน หรือเพื่อการใดตามที่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย ในกรณีที่ผู้รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในประเทศที่มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด บริษัทจะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีมาตรฐานเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่เหมาะสมแล้วแต่กรณี
บริษัทเคารพสิทธิในการความเป็นส่วนตัว อันมาจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ข้อมูลของท่านที่บริษัทได้รับตามหลักการข้างต้น จะถูกนำไปใช้หรือเปิดเผยตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ท่านทราบ หรือตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ บริษัทจะใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่าน ตามวัตถุประสงค์ที่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือตามที่กฎหมายกำหนด เท่านั้น
การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจึงกำหนดให้มีนโยบายการรักษาความปลอดภัย และระบบการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลให้มีกลไกและเทคนิคที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง แก้ไข ลบ ทำลาย หรือนำไปใช้ เปิดเผย โดยไม่มีสิทธิ หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย บริษัทจะจัดให้มีมาตรการทางเทคนิคในระบบข้อมูล IT ซึ่งใช้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้การใช้งานอุปกรณ์ประมวลผลข้อมูลที่ใช้จัดการข้อมูลส่วนบุคคลมีความถูกต้องแม่นยำและทำงานโดยรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยอยู่เสมอ รวมถึงจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่จำเป็นต้องลบตามกฎหมาย และจัดการทรัพยากรบุคคลของบริษัทโดยกำหนดมาตรการจัดการการฝึกอบรมเพื่อเรียนรู้และใช้งานระบบที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลและการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น รวมถึงข้อปฏิบัติที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้แน่ใจว่าบุคลากรของบริษัทปฏิบัติงานโดยมีความเข้าใจและตระหนักถึงความรับผิดชอบในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล และส่งเสริมพัฒนาบุคลากรที่ดูแลระบบ IT ให้มีความเชี่ยวชาญ และทันต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ใหม่ๆ โดยบริษัทจะจัดให้มีการประเมินผลและตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) ของบริษัท และตามกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะ เพื่อประเมินสถานะและความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลว่ายังคงเหมาะสมหรือไม่เพื่อประเมินและลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุการณ์ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ การรับส่งข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตยังคงมีข้อจำกัดในการดูแลรักษาความปลอดภัย แม้บริษัทจะได้จัดให้มีมาตรการความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเข้มงวดแล้วก็ตาม แต่บริษัทไม่อาจรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลที่ท่านเปิดเผยผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ดังนั้น บริษัทจึงขอสงวนสิทธิ์ที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบต่อความเสียหายหรือสูญหายที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อม จากการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทโดยมิได้รับอนุญาต (Unauthorized Access)
อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านควรปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการที่บริษัทกำหนดในทุกช่องทางการให้บริการของบริษัท สำหรับการรับส่งข้อมูลการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตทางอินเตอร์เน็ต บริษัทเชื่อมต่อระบบกับธนาคารผ่านระบบที่มีการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงตามมาตรฐานสากล ทั้งนี้ข้อมูลบัตรเครดิตของท่านถูกจัดเก็บไว้ที่ธนาคารเพียงแห่งเดียวเท่านั้น
ความมีส่วนร่วมหรือสิทธิในการเข้าถึง และ/หรือ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยแจ้งคำร้องผ่านช่องทางการติดต่อของบริษัท เช่น Call Center, สาขา หรือ เว็บไซต์ของบริษัท โดยบริษัทจะดำเนินการแจ้งถึงความมีอยู่ และรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว แก่ท่าน หากท่านเห็นว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้อง หรือไม่เป็นปัจจุบัน ท่านสามารถแจ้งแก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงท่านมีสิทธิขอให้บริษัทเคลื่อนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน คัดค้านการประมวลผล ขอให้ระงับการใช้ หรือดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทอาจมีสิทธิปฏิเสธหรือจำกัดสิทธิของเจ้าของข้อมูลได้ตามที่กฎหมายคุ้มครองส่วนบุคคลกำหนด โดยบริษัทจะพยายามตอบกลับคำขอที่โดยชอบด้วยกฎหมายของท่านภายในเวลา 30 วัน แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลามากกว่า 30 วัน หากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอหลายคำขอ ในกรณีนี้ บริษัทจะแจ้งท่านและคอยรายงานความคืบหน้าของกรณีให้ท่านทราบ
ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านไม่ยินยอมให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือให้บริษัทลบข้อมูลของท่านออกจากระบบ บริษัทขอเรียนให้ทราบว่าท่านอาจจะไม่สามารถใช้บริการบางอย่างของบริษัทได้ หรืออาจทำให้ท่านไม่ได้รับข้อมูลข่าวสาร หรือไม่ได้รับความสะดวกในการรับบริการ
การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทอาจมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการ การดำเนินงานของบริษัท และข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นจากท่าน ซึ่งบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบบนเว็บไซต์ของบริษัท หรืออาจส่งประกาศแจ้งให้ท่านทราบโดยตรง
ทั้งนี้ ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทนำมาประมวลผล วัตถุประสงค์ในการใช้ประมวลผล กรณีที่ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานที่อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปต่างประเทศ รวมถึงเหตุผลและวิธีการในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้น ได้ที่ www.homepro.co.th/privacy-notice หรือติดต่อที่ data_privacy@homepro.co.th
เอกสารแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) รวมถึงบริษัทย่อย (“บริษัทฯ”) มุ่งมั่นที่จะคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม รักษาข้อมูลของลูกค้าให้ปลอดภัย มีเสถียรภาพ และโปร่งใส เอกสารการแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“ เอกสารฯ”) ระบุเหตุผลในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยอธิบายถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวมจากลูกค้าและบุคคลต่าง ๆ ซึ่งบริษัทฯ ทำธุรกิจด้วย และวิธีการที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลดังกล่าว
เอกสารฯ นี้ใช้กับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงบริการของบริษัทฯ เช่น
- “บริการของบริษัทฯ” ได้แก่ การจำหน่ายสินค้าหรือการให้บริการของบริษัทฯ แก่ลูกค้าของบริษัทฯ
- “บริการของคู่ค้า” ได้แก่ การจำหน่ายสินค้าหรือการให้บริการแก่บริษัทฯ โดยบริษัทคู่ค้าหรือผู้ให้บริการของบริษัทฯ เช่น การจัดส่งสินค้า การติดตั้งสินค้า การให้บริการซ่อมแซมสินค้าแก่ลูกค้าของบริษัทฯ
- “บริการผู้มาเยือน” ได้แก่ การจัดหาโดยบริษัทฯ ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงห้องประชุม และสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่จัดให้แก่ผู้มาเยือนในส่วนสำนักงานของ บริษัทฯ ซึ่งรวมถึงลูกค้า หรือผู้มาติดต่ออื่น ๆ
ทั้งนี้ รวมไปถึง การดำเนินการอย่างใด ๆ กับข้อมูลซึ่งเกี่ยวข้องกับบริการต่าง ๆ ข้างต้น การบริหารจัดการภายในบริษัทฯ และการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ปฏิบัติตามหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัทฯ
การอ้างถึงคำว่า “ท่าน” หรือ “ของท่าน” ในเอกสารฯ นี้ เป็นการอ้างถึงบุคคลซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวนั้นถูกประมวลผลโดยหรือในนามของบริษัทฯ เกี่ยวกับบริการของบริษัทฯ บริการของคู่ค้า หรือบริการผู้มาเยือน อนึ่ง
- การอ้างถึงคำว่า “ลูกค้า” หรือ “คู่ค้า” ในเอกสารฯ นี้ ให้รวมถึงลูกจ้าง พนักงาน กรรมการ หรือตัวแทนของลูกค้าหรือคู่ค้าซึ่งเป็นนิติบุคคลด้วย ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวนั้นถูกประมวลผลโดยหรือในนามของบริษัทฯ และ
- เอกสารฯ นี้ใช้กับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคล (รวมถึงลูกจ้างหรือพนักงานของบุคคลนั้น) ซึ่งอาจจะเป็นคู่สัญญาในธุรกรรม หรือคู่ความหรือคู่พิพาทในการกระบวนการทางกฎหมายซึ่งบริษัทฯ เกี่ยวข้องอยู่ด้วย
การอ้างถึงคำว่า “บริษัทฯ” หรือ “เรา” หรือ “ของเรา” ในเอกสารฯ นี้ เป็นการอ้างถึงบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) รวมถึงบริษัทย่อย
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (“ข้อมูล” หรือ “ข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมถึงข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับท่านซึ่งสามารถใช้ระบุตัวตนของท่านได้ แต่ไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ (anonymous data)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว รวมถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด โดยบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวในกรณีจำกัด เช่น ข้อมูลเรื่องศาสนา โปรดพิจารณารายละเอียดของการเก็บข้อมูลเฉพาะกรณีดังกล่าว ในข้อ 4 (วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการใช้ข้อมูลของท่านโดยบริษัทฯ) สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีความอ่อนไหวในกรณีจำกัด ซึ่งกรณีเช่นนี้จะเป็นไปเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบ (เช่น กรณีที่บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการฟอกเงิน) หรือกรณีที่ท่านให้ข้อมูลนั้นซึ่งจำเป็นสำหรับการให้บริการบางประเภทของบริษัทฯ หรือในกรณีที่ท่านให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม
บริษัทฯ อาจได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากหลายช่องทาง เช่น:
- บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรง จากการที่ท่านได้ทำการสมัครสมาชิก HomeCard หรือ Home Service กับบริษัทฯ หรือจากการสมัครขอใช้บริการเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือจุดให้บริการต่าง ๆ ของบริษัท หรือจากการติดต่อต่าง ๆ ของท่านในทุกช่องทางการติดต่อของบริษัทฯ
- บริษัทฯ ยังอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จากบุคคลที่สาม หรือจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ หรือจากแหล่งอื่นโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น บริษัทย่อย พันธมิตรทางธุรกิจ สถาบันการเงิน ที่ปรึกษาทางการเงิน หน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายอื่น ๆ ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น
- บริษัทฯ ยังอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการทำธุรกรรมระหว่างท่านกับบริษัทหรือโดยที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมเอง เช่น ประวัติการสั่งซื้อสินค้าและการใช้บริการของบริษัท การใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือข้อมูลกล้องวงจรปิดของบริษัทฯ
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ใช้
บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลประเภทต่าง ๆ ของท่าน ทั้งนี้บริษัทฯ ได้จัดแบ่งข้อมูลของท่านออกเป็นประเภทต่าง ๆ ตามท้ายนี้ โดยระบุข้อกำหนดการใช้ข้อมูลในแต่ละประเภทโดยบริษัทฯ หรือในนามของบริษัทฯ ซึ่งข้อกำหนดดังกล่าวได้นำมาใช้ในเอกสารฯ ฉบับนี้
รายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคลและการติดต่อ:
- ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับตัวท่าน เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ ข้อมูลเกี่ยวกับที่พักอาศัย สภาพที่พักอาศัย จำนวนผู้พักอาศัย รายละเอียดการเดินทางไปที่พักอาศัย ภาพถ่ายที่พักอาศัย ภาพถ่ายของท่าน สัญชาติ รายได้ต่อครอบครัว ระดับการศึกษา อาชีพ เป็นต้น
- ข้อมูลที่อยู่ในบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง บัตรสมาชิก HomeCard หรือ Home Service หรือเอกสารระบุตัวตนอื่น ได้แก่ (1) ชื่อและนามสกุล (2) หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรสมาชิก HomeCard หรือ Home Service Card (3) วันเดือนปีเกิด (4) ที่อยู่ (5) ภาพถ่ายของผู้ถือบัตร (6) หมู่เลือด และ (7) ศาสนา รวมถึงรหัสลูกค้า รหัสผ่านบัญชี HomeCard หรือ Home Service และหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
- ข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อ เช่น (1) หมายเลขโทรศัพท์ (2) หมายเลขโทรสาร (3) อีเมล (4) ที่อยู่ (5) ละติจูด-ลองจิจูด สถานที่โครงการ พื้นที่ก่อสร้าง โครงการต่าง ๆ รวมถึง รูปถ่ายและแผนที่สถานที่โครงการหรือสถานที่ ดังกล่าว ซึ่งรวมถึงข้อมูลจากบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่ท่านใช้เพื่อติดต่อกับบริษัทฯ เช่น ชื่อบัญชี หรือรูปถ่าย
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในหนังสือรับรองนิติบุคคล ที่ออกโดยกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ ชื่อและนามสกุลของกรรมการ ผู้ถือหุ้น และที่อยู่ของกรรมการและผู้ถือหุ้น
- ข้อมูลที่อยู่ในทะเบียนบ้าน ได้แก่ (1) เลขรหัสประจำบ้าน (2) ที่อยู่ (3) ประเภทและลักษณะบ้าน (4) สัญชาติ (5) เพศ (6) ชื่อและนามสกุลของบิดามารดาผู้ให้กำเนิด (7) เลขประจำตัวประชาชนของบิดามารดา (8) สัญชาติของบิดามารดา และ (9) ถิ่นที่อยู่เดิมของท่าน
ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมกับเรา:
- ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการทำธุรกรรมระหว่างท่านกับเรา เช่น ประวัติการซื้อ ประวัติการใช้บริการ ประวัติการคืนหรือเปลี่ยนสินค้า ซึ่งรวมถึงข้อมูลการเยี่ยมชมสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์ของเรา
- ข้อมูลสิทธิประโยชน์ของสมาชิก เช่น ข้อมูลคะแนน HomeCard การสะสมคะแนน การแลกคะแนนเพื่อรับส่วนลด หรือรับโปรโมชัน รวมถึงข้อมูลจากบัตร Home Service Card
- ข้อมูลการติดต่อสื่อสารระหว่างท่านกับเราในทุกช่องทาง ซึ่งอาจรวมถึงประวัติการสนทนาผ่านข้อความ ไฟล์เสียงสนทนา รายละเอียดของเรื่องที่สนทนา เช่น รายละเอียดของเรื่องการติดต่อ ปัญหา ข้อร้องเรียนบริการของเรา ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในเอกสารการร้องเรียนการใช้สินค้าหรือบริการของเรา เช่น หนังสือระงับข้อพิพาท จดหมายจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจ เอกสารจากศาล และใบรับรองแพทย์ที่อาจมีข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวของท่าน เช่น ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลอาชญากรรม
- ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายกับเรา ซึ่งอาจรวมถึงแรงจูงใจของท่านในการซื้อสินค้าหรือบริการของเรา
- ข้อมูลที่เกี่ยวกับสุขภาพของท่านที่มีความจำเป็นต้องเก็บเพื่อใช้ทำธุรกรรมกับบริษัทฯ หรือตามกฎหมาย
ข้อมูลทางการเงินสำหรับการชำระหนี้
- ข้อมูลที่ท่านให้บริษัทฯ ที่เกี่ยวกับรายละเอียดของบัญชีธนาคาร และบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เพื่อการชำระเงินต่าง ๆ
ข้อมูลกล้องวงจรปิด
- ข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดของบริษัทฯ
- ข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าและข้อมูลภาพจำลองใบหน้า (facial recognition) ของท่าน
ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์
- ข้อมูลคุกกี้ (Cookies) ต่าง ๆ ที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมในระหว่างที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ เช่น รายการสินค้าที่ท่านเลือกชมล่าสุด ภาษาที่ท่านเลือกใช้ รายการสินค้าในตะกร้าของท่าน
บริษัทฯ มิได้มุ่งหรือประสงค์จะให้บริการแก่ผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ในการติดต่อสื่อสารหรือกระทำการอย่างใดกับบริษัท และไม่ว่าผ่านช่องทางใด หากท่านมีความประสงค์จะกระทำการใดกับบริษัท ท่านรับทราบว่าจะต้องได้รับความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ตามบริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลของบุคคลดังกล่าวเมื่อบริษัทฯ มีการให้บริการแก่ลูกค้า บริษัทฯ ทำการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์เฉพาะด้านซึ่งบริษัทฯ จัดให้หรือได้รับเท่านั้น
- บริษัทฯ แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลของท่าน และฐานทางกฎหมายที่ใช้ในการใช้ข้อมูลนั้นตามตารางข้างล่างนี้ โดยบริษัทฯ ได้ระบุถึงประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ที่ใช้เป็นฐานในการประมวลผลข้อมูลของท่านในกรณีที่เกี่ยวข้องด้วย
- บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลของท่านบนฐานทางกฎหมายมากกว่าหนึ่งฐาน หรือแตกต่างไปจากที่แสดงในตารางข้างล่างนี้ ทั้งนี้ขึ้นกับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลของท่านในแต่ละกรณี กรุณาติดต่อ data_privacy@homepro.co.th หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฐานทางกฎหมายซึ่งบริษัทฯ ใช้ในการประมวลผลข้อมูลของท่านในกรณีมีการอ้างอิงฐานทางกฎหมายมากกว่าหนึ่งฐานตามตารางท้ายนี้
“ข้อมูลกล้องวงจรปิด” จะถูกใช้เพื่อตรวจจับและป้องกันอาชญากรรม ตรวจจับและป้องกันเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย ตรวจจับและป้องกันการการเข้ามาในสถานที่ของบริษัทฯ และพื้นที่หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตรวจจับและป้องกันการประพฤติผิดอย่างร้ายแรง สนับสนุนงานสอบสวนกรณีความมั่นคง ความปลอดภัย และกิจการภายใน สนับสนุนการสอบสวนอาชญากรรม และเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ด้านความมั่นคงและปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการซักซ้อมฝึกอบรมด้านความปลอดภัย ในบางกรณีที่เป็นส่วนน้อยอาจจะมีการซ่อนกล้องวงจรปิดเพื่อการใช้งานตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้การประมวลผลข้อมูลกล้องวงจรปิดเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ
นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจใช้ข้อมูลกล้องวงจรปิดในการระบุตัวตนลูกค้า VIP เพื่อการให้บริการและเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น การให้บริการช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษเมื่อลูกค้า VIP เข้ามาในบริเวณสาขา การจัดกลุ่มลูกค้า VIP เพื่อทำโปรโมชั่นและสื่อสารสิทธิประโยชน์ การแจ้งข่าวสาร การเสนอขายสินค้าหรือบริการ หรือนำเสนอโปรโมชั่นที่จัดทำเพื่อลูกค้า VIP โดยเฉพาะ การติดตามคุณภาพการให้บริการและประเมินความพึงพอใจของลูกค้า VIP
กรณีที่ท่านไม่เปิดเผยข้อมูลของท่านให้บริษัทฯ
ในกรณีที่บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านตามกฎหมาย หรือจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านตามข้อกำหนดในสัญญาที่บริษัทฯ ทำไว้กับท่าน แต่ท่านไม่เปิดเผยข้อมูลของท่านเมื่อได้รับการร้องขอ บริษัทฯ อาจไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัทฯ ได้ทำ หรือจะเข้าทำกับท่าน (เช่น การให้บริการแก่ท่าน) ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ อาจต้องปฏิเสธที่จะให้บริการหรือรับบริการที่เกี่ยวข้อง แต่ทั้งนี้บริษัทฯ จะแจ้งท่านให้ทราบหากมีกรณีเช่นนี้ในเวลาที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน ตัวอย่างเช่น บริษัทฯ จะไม่สามารถให้บริการแก่ท่านในการจัดส่งสินค้าไปยังที่อยู่ของท่าน หากบริษัทฯ ไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นชื่อ ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของท่าน ซึ่งบริษัทฯ ต้องใช้ในการให้บริการดังกล่าวแก่ท่าน
ในกรณีที่บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านตามกฎหมาย หรือจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านตามข้อกำหนดในสัญญาที่บริษัทฯ ทำไว้กับท่าน แต่ท่านไม่เปิดเผยข้อมูลของท่านเมื่อได้รับการร้องขอ บริษัทฯ อาจไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัทฯ ได้ทำ หรือจะเข้าทำกับท่าน (เช่น การให้บริการแก่ท่าน) ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ อาจต้องปฏิเสธที่จะให้บริการหรือรับบริการที่เกี่ยวข้อง แต่ทั้งนี้บริษัทฯ จะแจ้งท่านให้ทราบหากมีกรณีเช่นนี้ในเวลาที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน ตัวอย่างเช่น บริษัทฯ จะไม่สามารถให้บริการแก่ท่านในการจัดส่งสินค้าไปยังที่อยู่ของท่าน หากบริษัทฯ ไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นชื่อ ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของท่าน ซึ่งบริษัทฯ ต้องใช้ในการให้บริการดังกล่าวแก่ท่าน
บริษัทฯ ได้ใช้เทคโนโลยีในการติดตาม เช่น คุกกี้ (Cookies) หรือ Tags เพื่อรวบรวมข้อมูล เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้เยี่ยมชมใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ อย่างไร
เทคโนโลยีในการติดตามช่วยให้เราสามารถบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ของ บริษัทฯ เช่น ทำให้เราสามารถตรวจสอบว่ามีการติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ของท่านและของเราในอดีตหรือไม่ เพื่อบันทึกประวัติการซื้อสินค้า หรือประวัติการเข้าเยี่ยมชม website การตั้งค่าภาษาของท่านไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกเมื่อท่านกลับมาใช้งานเว็บไซต์ของเราอีก
เมื่อท่านได้มีการบันทึกข้อมูลการตั้งค่าคุกกี้แล้ว การตั้งค่าดังกล่าวจะนำไปใช้กับการเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ในอนาคต อย่างไรก็ตาม อาจจะมีเหตุผลทางด้านเทคนิคที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ดังนั้น จึงไม่สามารถรับประกันได้ในกรณีเหล่านี้ เช่น การที่ท่านตั้งเบราว์เซอร์ของท่านใหม่ การลบคุกกี้ หรือการเข้าใช้เว็บไซต์ของบริษัทฯ จากเบราว์เซอร์หรือเครื่องมืออื่น การตั้งค่าคุกกี้ที่ท่านทำไว้อาจสูญหายได้
ในหลาย ๆ กรณี ท่านสามารถควบคุมเทคโนโลยีในการติดตามโดยการใช้เบราว์เซอร์ของท่านเอง กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านได้มีการตั้งค่าตามที่ท่านต้องการว่าให้มีการเตือนหรือยอมรับเทคโนโลยีการติดตาม เช่น คุกกี้ หรือไม่ ถ้าเป็นไปได้ ท่านสามารถหาความสามารถเฉพาะของเบราว์เซอร์ของท่านและคำแนะนำในวิธีการใช้งานดังกล่าวได้จากคู่มือหรือไฟล์ช่วยเหลือของเบราว์เซอร์ของท่าน
การปฏิเสธ การจำกัดการใช้งาน หรือการปิดใช้งานเทคโนโลยีการติดตาม อาจทำให้ประสิทธิภาพของการให้บริการของเว็บไซต์ของบริษัทลดลง หรือบางส่วนของเว็บไซต์ของบริษัทอาจจะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง
บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น ระหว่างที่บริษัทฯ ยังคงจ้างงานท่านอยู่ และ หลังจากที่ท่านได้ออกจากบริษัทฯ แล้ว โดยระยะเวลาที่ชัดเจนในการเก็บข้อมูลของท่านไว้อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละกรณี เช่น การเก็บข้อมูลเพื่อเป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฏหมาย กฏระเบียบ การบัญชี หรือการรายงาน เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญา เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฏหมายหรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฏหมาย
ในการกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมในการเก็บข้อมูลของท่าน บริษัทฯ จะพิจารณาถึงปริมาณ ลักษณะ และความอ่อนไหวของข้อมูลของท่าน (sensitivity) ความเสี่ยงจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลของท่าน และบริษัทฯ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้ด้วยวิธีการอื่นหรือไม่ ตลอดจนข้อกำหนดทางกฎหมายที่ใช้บังคับ
โดยทั่วไป บริษัทฯ จัดเก็บข้อมูลของท่านไว้ตลอดอายุสมาชิก HomeCard หรือ Home Service (ในกรณีที่ท่านเป็นสมาชิก) หรือจนกว่าธุรกรรมระหว่างท่านกับเราจะสิ้นสุด และภายหลังจากนั้นตลอดระยะเวลาอายุความสูงสุดตามกฎหมาย (ทั้งนี้ กฎหมายไทยมีกำหนดระยะเวลาอายุความทั่วไปสูงสุดไม่เกิน 10 ปีนับจากวันสิ้นสุดสัญญา) อย่างไรก็ตามอาจมีกรณีที่บริษัทฯ เก็บข้อมูลของท่านเป็นระยะเวลาที่สั้นกว่านั้น
ในกรณีของข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิด บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลนั้นไว้เป็นระยะเวลาเพียง 30 วัน อนึ่ง หากข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดเกี่ยวข้องกับกรณีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งโดยเฉพาะ บริษัทฯ อาจต้องเก็บข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นระยะเวลานานกว่าที่ระบุข้างต้น เช่น กรณีการสอบสวนเหตุอาชญากรรมในบริเวณสาขา หรือกรณีที่มีการใช้ข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานในการพิจารณาคดีต่าง ๆ
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บข้อมูลที่ใช้กับข้อมูลของท่าน กรุณาติดต่อบริษัทฯ ที่ data_privacy@homepro.co.th หรือสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ (Terms and Conditions) ที่เกี่ยวข้อง
บริษัทฯ อาจต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลของท่านกับนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นดังที่จะระบุท้ายนี้ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น ดังรายละเอียดในข้อ 4 (วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการใช้ข้อมูลของท่านโดยบริษัทฯ)
- ข้อมูลของท่านจะถูกเปิดเผยภายในบริษัทฯ บริษัทย่อย (“กลุ่มบริษัท”) ทั้งนี้ บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลของท่านกับกลุ่มบริษัทเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทฯ และเพื่อให้บริการแก่ท่านด้วยคุณภาพสูงสุด
- บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลต่อไปนี้เมื่อมีเหตุดังต่อไปนี้ (โดยอยู่ภายใต้ข้อกำหนดทางธุรกิจซึ่งบริษัทฯ อาจเข้าทำกับท่าน)
(1) คู่ค้าของบริษัทฯ เช่น บริษัทผู้ผลิต จัดส่ง เปลี่ยน คืน และซ่อมแซมสินค้า หรือพันธมิตรทางธุรกิจในการติดต่อประสานงาน หรือจัดกิจกรรมทางการตลาดร่วมกับบริษัทฯ
(2) บริษัทผู้รับประกันภัยความรับผิดจากผลิตภัณฑ์ หรือบริษัทผู้รับประกันภัยอื่น ๆ ที่บริษัทฯ เป็นคู่สัญญา
(3) บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งบริษัทฯ มีหน้าที่หรือถูกร้องขอให้เปิดเผยข้อมูล โดยศาลที่มีเขตอำนาจ หรือโดยหน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานด้านภาษี หรือหน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหรือหน่วยงานในลักษณะเดียวกัน
(4) ที่ปรึกษาหรือผู้ให้คำปรึกษาด้านวิชาชีพของบริษัทฯ รวมถึงทนายความ นายธนาคาร ผู้สอบบัญชี นักบัญชี และผู้รับประกันภัย ที่ให้บริการงานให้คำปรึกษา กฎหมาย การธนาคาร การตรวจสอบ บัญชี หรือประกันภัยแก่บริษัทฯ
(5) สถาบันการเงินที่ให้เงินทุนแก่บริษัทฯ
(6) ผู้ให้บริการ ซึ่งให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และงานดูแลระบบให้กับบริษัทฯ รวมถึงคลังสินค้าหรือผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลอื่น เช่น Cloud และ
(7) ผู้ตรวจสอบภายนอก ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบอิสระของแฟ้มข้อมูลของท่าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาให้ตรามาตรฐานการดำเนินงานของบริษัทฯ
- บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านกับบุคคลหรือนิติบุคคลภายนอกกลุ่มบริษัท ซึ่งบริษัทฯ อาจขายหรือโอนธุรกิจหรือสินทรัพย์บางส่วนของบริษัทฯ ให้ หรือในทางกลับกันบริษัทฯ อาจมีแผนเข้าซื้อหรือควบรวมกิจการกับบุคคลหรือนิติบุคคลภายนอก ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจของ บริษัทฯ ในส่วนที่มีการขาย ได้มา หรือควบรวมกับบริษัทอื่น (แล้วแต่กรณี) อาจมีการใช้ข้อมูลของท่านในลักษณะเดียวกับที่อธิบายไว้ในเอกสารฯ ฉบับนี้
บริษัทฯ อาจกำหนดให้บุคคลหรือนิติบุคคลที่บริษัทฯ ได้เปิดเผยข้อมูลของท่าน ให้ความเคารพในความลับและความปลอดภัยของข้อมูลของท่าน และปฏิบัติกับข้อมูลของท่านให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับ
บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคล หน่วยงานต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังมิได้กำหนดว่ามีมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ (Appropriate safeguards) อย่างไรก็ดี เมื่อใดก็ตามที่เราส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อทำการประมวลผลนอกราชอาณาจักรไทย เราจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้กำหนด
ในบางสถานการณ์ ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวกับข้อมูลของท่าน ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายในการเคารพสิทธิของท่าน และบริษัทฯ จะดำเนินการทันทีและให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ หรือระเบียบที่บังคับใช้เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลของท่าน
สิทธิของท่านมีรายละเอียดดังนี้
- สิทธิในการถอนความยินยอม ในกรณีที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลของท่านบนฐานความยินยอม ท่านอาจถอนความยินยอมเสียเมื่อใดก็ได้
- สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล ท่านมีสิทธิขอการยืนยันว่าบริษัทฯ ทำการประมวลผลข้อมูลของท่านหรือไม่ มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลของท่าน และรายละเอียดว่าบริษัทฯ มีการใช้ข้อมูลของท่านอย่างไร
- สิทธิในการเคลื่อนย้ายข้อมูล ในบางกรณี ท่านสามารถขอรับสำเนาข้อมูลของท่านที่อยู่ในรูปแบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ ทั้งนี้เป็นสิทธิที่ใช้กับข้อมูลของท่านที่ท่านได้ให้แก่บริษัทฯ สิทธิในการเคลื่อนย้ายข้อมูลนี้ใช้เฉพาะกรณีซึ่งท่านให้ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูล หรือต้องมีการประมวลผลข้อมูลเพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญาเท่านั้น
- สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณี ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลโดยบริษัทฯ ในกรณีดังนี้ (ก) หากว่าบริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลของท่านบนพื้นฐานของประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ (ข) หากว่าบริษัทฯ ใช้ข้อมูลของท่านเพื่อประโยชน์ด้านการตลาดโดยตรง หรือ (ค) หากว่าข้อมูลที่ประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ
- สิทธิขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณี ท่านมีสิทธิขอให้ลบข้อมูลบางส่วนซึ่งบริษัทฯ มีอยู่ แต่ทั้งนี้สิทธิดังกล่าวมิได้ครอบคลุมถึงการขอให้ลบข้อมูลทั้งหมด บริษัทฯ จะพิจารณาคำขออย่างละเอียดเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การประมวลผลตามที่แจ้งไว้ข้างต้นและตามข้อกำหนดของ กฎหมายที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลของท่าน
- สิทธิในการขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณี ท่านมีสิทธิระงับการประมวลผลข้อมูลของท่านในบางสถานการณ์ ทั้งนี้สิทธิดังกล่าวจะเกิดขึ้นในกรณีที่ท่านได้โต้แย้งความถูกต้องของข้อมูลของท่าน ในกรณีที่ท่านคัดค้านการประมวลผลข้อมูล หากการประมวลผลข้อมูลของท่านไม่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งต้องมีการลบหรือทำลายแต่ท่านขอให้ระงับการใช้แทน ในกรณีที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลของท่านแต่ท่านขอให้เก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือในกรณีที่บริษัทฯ ต้องใช้ข้อมูลของท่านในการตรวจสอบตามที่ท่านร้องขอเพื่อคัดค้านการประมวลผลข้อมูล
- สิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน หากบริษัทฯ มีเหตุผลอันสมควรที่จะไม่แก้ไขข้อมูลของท่านตามที่ท่านร้องขอ ท่านมีสิทธิให้บริษัทฯ บันทึกคำร้องของท่านไว้ในบันทึกของบริษัทฯ ในเรื่องการดำเนินการประมวลผลข้อมูล และ
- สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียนหากท่านเห็นว่าบริษัทฯ หรือพนักงานของบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้
ท่านอาจใช้สิทธิใดๆ ของท่านในเรื่องดังกล่าวข้างต้นเมื่อใดก็ได้ โดยยื่นคำร้องขอใช้สิทธิผ่านช่องทาง www.homepro.co.th/rights_request ทั้งนี้ ท่านไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าถึงข้อมูลของท่าน (หรือใช้สิทธิอื่นใดของท่าน) แต่ทั้งนี้อาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามแต่กรณีหากพบว่าคำขอของท่านไม่มีมูล มีการขอซ้ำ หรือมีจำนวนมากเกินจำเป็น อนึ่ง บริษัทฯ อาจปฏิเสธไม่ดำเนินการตามคำขอของท่านหากเป็นกรณีดังกล่าว
บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อช่วยให้บริษัทฯ ยืนยันการระบุตัวตนของท่าน และการใช้สิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลของท่าน (หรือในการใช้สิทธิอื่นใดของท่าน) ทั้งนี้เป็นมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลของท่านมีการเปิดเผยแก่บุคคลใดซึ่งไม่มีสิทธิได้รับข้อมูลนั้น บริษัทฯ อาจติดต่อกับท่านเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวกับคำขอของท่าน ทั้งนี้เพื่อให้บริษัทฯ ดำเนินการตอบสนองคำขอของท่านอย่างรวดเร็ว
บริษัทฯ จะพยายามตอบสนองคำขอโดยชอบด้วยกฎหมายทั้งหมดภายในเวลา 30 วัน แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลามากกว่า 30 วัน หากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอหลายคำขอ ในกรณีนี้ บริษัทฯ จะแจ้งท่านและคอยรายงานความคืบหน้าของกรณีให้ท่านทราบ
หากท่านมีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับเอกสารฯ ฉบับนี้ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อดังนี้
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ
บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เลขที่ 31 ถนนประชาชื่นนนทบุรี ตำบลบางเขน อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ประเทศไทย อีเมล: data_privacy@homepro.co.th
เอกสารฯ ฉบับแรกนี้จัดทำในเดือน [31 มีนาคม 2564] โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติมครั้งล่าสุดตามที่แสดงไว้ใน “วันที่แก้ไขเพิ่มเติม” (ถ้ามี) ท่านสามารถขอรับเอกสารฯ ฉบับก่อนได้โดยติดต่อที่ data_privacy@homepro.co.th
บริษัทฯ อาจปรับปรุงแก้ไขเอกสารฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว โดยบริษัทฯ จะแจ้งประกาศการแก้ไขในเว็บไซต์ของบริษัทฯ เป็นระยะเวลา 30 วัน ทั้งนี้การที่ท่านใช้บริการของบริษัทฯ ภายหลังจากพ้นระยะเวลาดังกล่าว ถือว่าท่านยืนยันการตกลงยอมรับของท่านต่อเอกสารฯ ฉบับนี้และส่วนที่ปรับปรุงแก้ไขใด ๆ นั้น
ในกรณีที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเอกสารฯ อย่างมีนัยสำคัญ บริษัทฯ อาจจะแจ้งให้ท่านทราบว่าได้มีการปรับปรุงแก้ไขเอกสารฯ นี้ ผ่านทางเว็บไซต์ (www.homepro.co.th/data-privacy) สื่อประชาสัมพันธ์ในสาขา สื่อออนไลน์ หรือช่องทางการติดต่ออื่น
นโยบายการใช้คุกกี้ (COOKIES POLICY)
เว็บไซต์นี้ให้บริการโดยบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) รวมถึงบริษัทย่อย (“บริษัทฯ”) วัตถุประสงค์ของนโยบายการใช้คุกกี้ฉบับนี้ เพื่อให้ท่านผู้ใช้บริการได้ทราบถึงความหมาย ประเภท ลักษณะการใช้คุกกี้ รวมถึงวิธีการจัดการคุกกี้เว็บไซต์ของบริษัทฯ สำหรับช่วยแยกแยะรูปแบบการใช้งานเว็บไซต์ของท่านจากผู้ใช้งานอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาคุณภาพของเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น
คุกกี้คืออะไร
คุกกี้ คือ ไฟล์ข้อความขนาดเล็กที่ประกอบด้วยส่วนของข้อมูลซึ่งมาจากการดาวน์โหลด อาจถูกเก็บบันทึกไว้ในเว็บเบราว์เซอร์ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือมือถือของท่านที่ต่อเชื่อมอินเตอร์เน็ต ซึ่งทำหน้าที่บันทึกข้อมูลและการตั้งค่าต่างๆ คล้ายกับหน่วยความจำของหน้าเว็บเบราว์เซอร์ เช่น บันทึกข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน บันทึกสถานการณ์เข้าใช้งานในปัจจุบันของท่าน เพื่อช่วยให้ท่านสามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการเข้าใช้งานบริการที่ท่านชื่นชอบในรูปแบบไฟล์ โดยคุกกี้ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์ของท่าน และเนื้อหาในคุกกี้จะถูกเรียกออกมาดูหรืออ่านได้โดยบริการที่สร้างคุกกี้ดังกล่าวเท่านั้น
ประโยชน์ของคุกกี้
คุกกี้สามารถจดจำข้อมูลที่จะทำให้การใช้งานเว็บไซต์สะดวกยิ่งขึ้น จดจำประเภทของเบราว์เซอร์ซอฟต์แวร์ วันที่และเวลาเข้าสู่เว็บไซต์ ระยะเวลาการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น คุกกี้จดจำการบันทึกการตั้งค่าการใช้งานเว็บไซต์จะช่วยให้ท่านเข้าถึงเว็บไซต์ด้วยการตั้งค่านั้นทุกครั้งที่ใช้งาน หากคุกกี้ถูกลบจะทำให้การตั้งค่าทุกอย่างกลับไปที่ค่าเริ่มต้น นอกจากนั้นคุกกี้สามารถแสดงผลว่ามีการเข้าชมส่วนใดของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น เพื่อที่บริษัทฯ จะสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นที่ดีขึ้นและตรงกับความต้องการของท่านได้
ประเภทของคุกกี้
ระยะเวลาที่คุกกี้จะถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์ของท่าน
- คุกกี้แบบช่วงเวลา (Session Cookies) จะถูกลบโดยอัตโนมัติเมื่อท่านปิดเบราว์เซอร์
- คุกกี้ถาวร (Persistent Cookies) จะยังคงอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านจนกระทั่งหมดอายุหรือถูกลบทิ้ง Persistent cookies สามารถเก็บข้อมูลความสนใจของท่านทำให้การเข้าใช้เว็บไซต์ครั้งต่อๆ ไปของท่านง่ายและใกล้เคียงกับความสนใจของท่านมากขึ้น
ทางเลือกเกี่ยวกับคุกกี้
- ท่านสามารถปิดการทำงานของคุกกี้ได้ โดยการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่าน และตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเพื่อระงับการรวบรวมข้อมูลโดยคุกกี้ในอนาคต การปิดการทำงานคุกกี้บางประเภทอาจทำให้ท่านใช้งานฟังก์ชันบางอย่างหรือทั้งหมดของบริการดังกล่าวได้อย่างไม่ราบรื่น อย่างไรก็ตามบริการบางอย่างบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ จำเป็นต้องมีการใช้คุกกี้บางประเภทของท่านหากท่านใช้งานเว็บไซต์ต่อไปถือว่าท่านยอมรับการใช้คุกกี้ที่ระบุข้างต้น สามารถศึกษาวิธีการจัดการคุกกี้ของแต่ละเบราว์เซอร์ได้ที่
การเปลี่ยนแปลงนโยบายการใช้คุกกี้
บริษัทอาจมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนโยบายการใช้คุกกี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการ การดำเนินงานของบริษัท และข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นจากท่าน ซึ่งบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบบนเว็บไซต์ของบริษัท หรืออาจส่งประกาศแจ้งให้ท่านทราบโดยตรง
ทั้งนี้ ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของเอกสารการแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ได้ที่ www.homepro.co.th/privacy-notice หรือติดต่อที่ data_privacy@homepro.co.th
นโยบายการใช้คุกกี้นี้ได้รับการปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564